เศรษฐกิจเวียดนาม 2023 เป็นประเด็นที่น่าจับตามอง เพราะตั้งแต่การฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิด-19 เศรษฐกิจเวียดนามในปี 2022 มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในเอเชีย หลายประเทศที่มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจสูงก็สนใจตั้งฐานการผลิตในประเทศเวียดนามกันมาก เศรษฐกิจเวียดนามจึงน่าสนใจสำหรับนักลงทุนหลายคนที่พร้อมรับความเสี่ยงสูง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่ยังคงผันผวน และนโยบายทางการเมืองที่รัฐบาลเวียดนามดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่
เศรษฐกิจเวียดนาม 2023 กับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ควรรู้
เศรษฐกิจเวียดนาม 2023 เติบโตได้ดีเนื่องจากมีปัจจัยทางการเมืองที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างจริงจัง และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกในอนาคต แม้ข่าวการลาออกของประธานาธิบดีเวียดนามเพื่อรับผิดชอบเรื่องปัญหาการทุจริตในประเทศ อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวไปบ้าง เพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลเวียดนามก็มีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น หากนโยบายดังต่อไปนี้ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว
หลังจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของวิกฤตโควิด-19 คลายตัวลง รัฐบาลเวียดนามส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศอย่างเต็มที่ เนื่องจากเวียดนามมีทรัพยากรที่ได้เปรียบด้านการท่องเที่ยวสูง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ไปจนถึงกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับความบันเทิง เศรษฐกิจเวียดนามปี 2023 จึงมีอัตราการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและภาคการบริการพุ่งสูงขึ้นมากตั้งแต่เปิดประเทศ โดยรัฐบาลเวียดนามกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งกับชาวเวียดนามเอง และส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย นอกจากนี้ยังมีการออกนโยบายลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 10 เหลือเพียงร้อยละ 8 สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการหลาย ๆ ประเภท แต่ยังมีกลุ่มสินค้าบางประเภทที่ยกเว้น เช่น การเงินการธนาคาร โทรคมนาคม เคมีภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ ผลิตภัณฑ์กลุ่มโลหะ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมหนัก ทำให้ผลของการยกเว้นอาจไม่กระทบต่อสินค้ากลุ่มการบริการและการท่องเที่ยวมากนัก ยกเว้นสินค้าบางประเภทที่ต้องชำระภาษีสรรพสามิต อย่างสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
- นโยบายการเปิดตลาดใหม่นอกเหนือจากตลาดส่งออกหลักดั้งเดิม
ตลาดส่งออกหลักขนาดใหญ่ของเวียดนามตั้งแต่พัฒนาภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่ส่งผลมาจนถึงเศรษฐกิจเวียดนาม 2023 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี แต่เวียดนามไม่ได้ผลิตแค่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพียงอย่างเดียว ยังมีสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มการส่งออกไปยังตลาดใหม่ ๆ ได้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามก็ต้องการส่งเสริมการส่งออกให้มากขึ้น จึงมีการเจรจาเพื่อเปิดตลาดส่งออกใหม่เพิ่มขึ้น โดยประเทศที่จะเจรจาเพื่อลงนามความร่วมมือกัน ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศตะวันออกกลางอื่น ๆ อินเดีย ประเทศในแอฟริกา ยุโรปตะวันออก และประเทศในโซนละตินอเมริกา รวมไปถึงประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอเมริกาใต้
- นโยบายด้านการจัดการและบริหารเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิของผู้บริโภค
การคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เป็นนโยบายสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจภาคส่วนอื่น ๆ เติบโตได้ หากรัฐบาลเวียดนามดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีนโยบายที่จะเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการป้องกันการทุจริตมากขึ้น เพื่อทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในเวียดนาม อาจมีการดำเนินการป้องกันและปรามปรามการทุจริตด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของผู้ประกอบการ เพิ่มความเข้มงวดในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นที่จะซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น หรือเปลี่ยนจากผู้บริโภคมาเป็นผู้ผลิต เพราะเชื่อมั่นในการลงทุนทำธุรกิจมากขึ้น
เศรษฐกิจเวียดนาม 2023 กับแนวโน้มทิศทางการเติบโตที่เป็นไปได้
โดยสรุปอย่างง่ายแล้ว เศรษฐกิจเวียดนาม 2023 มีความเป็นไปได้ที่จะชะลอการเติบโตในช่วงสั้น ๆ อาจกินเวลาประมาณ 2-3 ปี หรือจนกว่านักลงทุนเริ่มเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจเวียดนามจะมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่นักลงทุนหรือนักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า เศรษฐกิจเวียดนามยังมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นได้อีกในอนาคต ซึ่งอัตราการเติบโตนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ และมีความผันผวนสูง เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลเวียดนามเองก็ยังไม่คงที่ ถึงอย่างนั้นแล้ว การลงทุนในเวียดนามยังเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดี สำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงสูงได้ เพราะมีโอกาสเติบโตได้สูง หากยังคงมีความได้เปรียบด้านทรัพยากรแรงงานอยู่ และหากดำเนินนโยบายเศรษฐกิจได้ตามแผนที่วางไว้ การลงทุนในเวียดนามก็จะช่วยสร้างกำไรให้กับนักลงทุนในระยะยาวได้อย่างแน่นอน